หวั่นการขึ้นค่าแรง อาจจะไปซ้ำเติมธุรกิจที่กำลังประสบปัญหา 

             เชื่อว่าหลายคนคงจำกันได้ดีว่าเวลาที่มีการเลือกตั้งมักจะมี ส.ส. ออกมากล่าวถึงนโยบายของตนเองว่าถ้าหากได้เป็น ส.ส. ทำงานในรัฐสภาก็จะมีการช่วยเหลือประชาชนในด้านไหนบ้าง

ซึ่งในแนวทางหรือนโยบายที่ผู้สมัครก็มักจะมีการประกาศออกมาก็คือการจะช่วยเหลือพวกกลุ่มแรงงานซึ่งในประเทศไทยนั้นมีเป็นจำนวนมากด้วยการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำให้ หวั่นการขึ้นค่าแรง

         อย่างไรก็ตามมีค่ะเปิดเผยออกมาว่าในขณะนี้ทางด้านกลุ่มไตรภาคีได้มีการยื่นร้องขอให้รัฐบาลได้มีการประกาศการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำให้กับกรมแรงงานตามที่เคยได้มีการสัญญาเอาไว้ซึ่งล่าสุดนั้นได้มีการเปิดเผยออกมาว่าเรื่องของการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำได้มีการบรรลุข้อตกลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยรัฐบาลจะมีการประกาศปรับขึ้นแรงงานขั้นต่ำให้กับกลุ่มแรงงานตั้งแต่วันที่ 1 เดือนตุลาคม ปี พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป 

         สำหรับการปรับเพิ่มอัตราค่าแรงขั้นต่ำนั้นจะไม่ได้มีการปรับเพิ่มพร้อมกันซะทีเดียวโดยจะมีการค่อยๆทยอยปรับเพิ่มซึ่งจะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 9 โซน ด้วยกันและแต่ละสายอาชีพนั้นก็จะมีการปรับขึ้นค่าแรงอัตราขั้นต่ำที่แตกต่างกันออกไป    

            อย่างไรก็ตามหลังจากที่รัฐบาลได้มีการออกมาประกาศเกี่ยวกับเรื่องของการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำนั้นปรากฏว่ามีหลายฝ่ายที่ออกมาวิเคราะห์กับปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากว่าในขณะนี้ทางด้านประเทศไทยเองก็มีปัญหาเรื่องของเศรษฐกิจธุรกิจหลายธุรกิจกำลังประสบปัญหาอย่างหนัก

           ดังนั้นถ้าหากว่ารัฐบาลได้มีการปรับค่าแรงขั้นต่ำขึ้นธุรกิจที่กำลังประสบปัญหาอยู่ก็จะยิ่งประสบปัญหามากขึ้นกว่าเดิม

โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจที่ตอนนี้กำลังได้กำไรน้อย หากต้องมีการปรับราคาค่าจ้างขั้นต่ำให้กับลูกจ้างก็จะส่งผลทำให้เจ้าของธุรกิจนั้นอาจจะขาดทุนได้ซึ่งอาจจะส่งผลทำให้ธุรกิจประสบปัญหาและไปไม่รอดต้องปิดกิจการได้นั่นเอง 

            อย่างไรก็ตามปัญหาเรื่องของการปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำตอนนี้มีการถกเถียงกันเป็นอย่างมากเนื่องจากว่าสำหรับประชาชนที่เป็นพวกกลุ่มแรงงานแล้วมองว่าการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำให้กับกรมแรงงานนั้นค่อนข้างขึ้นน้อยมากและในขณะนี้ประเทศไทยก็ยังต้องเจอกับปัญหาสภาวะค่าครองชีพที่สูงดังนั้นถ้าหากว่าเพิ่มค่าแรงให้น้อยกรมแรงงานก็ยังไม่มีเงินเพียงพอที่จะมาใช้ในการใช้จ่ายในแต่ละวันได้แต่ถ้าหากว่ามีการปรับเพิ่มค่าแรงให้สูงมากจนเกินไปก็จะส่งผลกระทบต่อเจ้าของธุรกิจเหมือนกับไปซ้ำเติมเจ้าของธุรกิจที่ตอนนี้ธุรกิจยังอยู่ในช่วงที่กำลังประสบปัญหาซึ่งอาจจะทำให้ธุรกิจล้มได้ 

           อย่างไรก็ตาม เราคงต้องมารอดูกันว่าเมื่อมีการปรับเพิ่มอัตราค่าแรงขั้นต่ำแล้วจะส่งผลต่อการจ้างงานหรือไม่เพราะมีบางบริษัทที่ถ้าหากว่าค่าแรงขั้นต่ำสูงมากจนเกินไปอาจจะมีการย้ายฐานการผลิตไปประเทศเพื่อนบ้านที่มีค่าแรงขั้นต่ำที่ถูกกว่าของไทยหรือไม่บางบริษัทอาจจะมีการตัดสินใจนำเครื่องจักรมาใช้แทนแรงงานคนก็เป็นไปได้ 

 

สนับสนุนโดย.    ยู ฟ่า สล็อต อันดับ 1