คนตายจากพิษเศรษฐกิจ

คงต้องยอมรับกันแล้วว่าความรุนแรงของการแพร่ระบาดไข้ไวรัสโควิด19 นั้น มีอานุภาพทำลายอย่างร้ายแรง จนทำให้แต่ละประเทศสะบักสะบอมกันไปหมด ซึ่งปัญหาใหญ่ที่จะตามมาของคนทั่วโลกคือ เศรษฐกิจโลกกำลังจะพัง เพราะผู้คนต่างล้มป่วย

และหยุดการทำงานในหลายๆ ภาคส่วน มีการหยุดและยุติการส่งออกระหว่างประเทศ และการค้าในแต่ละประเทศเองก็ซบเซาด้วยปัญหาคนออกจากบ้านไม่ได้ ซึ่งในส่วนของประเทศไทย จากที่แบงค์ชาติเคยประเมินไว้ตอนสิ้นปีว่า เศรษฐกิจไทยจะโตขึ้น สองจุดแปดเปอร์เซ็นต์

แต่ตอนนี้จะกลายเป็นติดลบห้าจุดสามเปอร์เซ็นต์แทน ซึ่งเป็นอัตราติดลบทางด้านเศรษฐกิจที่หนักที่สุดในรอบยี่สิบสองปี นับตั้งแต่วิกฤติต้มยำกุ้งปี 2541 ซึ่งผลจากการระบาดของไวรัสตัวนี้ทางแบงค์ชาติเชื้อว่ามันจะถูกควบคุมได้ในเดือนเมษายน

แต่การฟื้นตัวนักท่องเที่ยวยังคงต้องใช้เวลา และการส่งออกสินค้าและบริการมีแนวโน้มปรับลดลงอย่างเห็นได้ชัด หากมีการควบคุมการแพร่ระบาดและหาวัคซีนที่รักษาได้ ก็ต้องดูอีกว่านโยบายของประเทศไทยจะสามารถทำได้เพียงใด

การหดตัวของจีดีพี น่าเป็นห่วงโดยเฉพาะผลจากภาคส่งออกสินค้า ซึ่งรวมกับการท่องเที่ยว ดูแนวโน้มจะมีสถานการณ์ที่รุนแรงในช่วงไตรมาส2  ยิ่งถ้าดูจากนโยบายหรือมาตรการที่ภาครัฐทำไว้นั้น เราจะเห็นภาพชัดเจนว่าการระบาดของไข้ไวรัสโควิด19 นี้

ในอนาคตข้างหน้าน่าจะยังคงมีความทวีรุนแรงอีกขึ้นเรื่อยๆ และกว่าจะควบคุมได้คงต้องใช้เวลาสองถึงสามเดือน ซึ่งก็จะข้าสู่ต้นไตรมาสสามกันแล้ว และกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวคงต้องใช้เวลาอีกหนึ่งไตรมาส รวมกันก็ต้องดูคู่ค้าของเราอีกต่อว่า เค้าแข็งแรงและพร้อมเร็วแค่ไหน

ดังนั้นมันเหมือนห่วงโซ่  ที่กระทบกันเป็นลูกโซ่ ไปยังภาคธุรกิจและรายได้ครัวเรือนของประชาชนจนกลายเป็นวงกว้าง การลงทุนและการบริโภคของภาคเอกชนก็หดตัวลงไป ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อคนที่เป็นหนี้แบงค์ไม่มีจ่ายหนี้ แบงค์เองก็จะมีหนี้เสียเพิ่มมากขึ้น และเมื่อแบงก์เองมีหนี้เสีย

ก็จะไม่ปล่อยเงินกู้ต่อลมหายใจให้กับลูกหนี้อีก ถึงตอนนั้นธุรกิจแต่ละที่ก็จะลดเงินเดือน และจำนวนพนักงาน เพราะสายป่านไม่พอ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้ก็จะมีกลุ่มคนที่ตกงาน และไม่มีรายได้ นั่นคือสาเหตุที่หากบางคนไม่มีทางออกก็อาจจะเลือกวิธีตัดช่องน้อยแต่พอตัว ซึ่งก็จะทำให้มีคนตายจากพิษเศรษฐกิจ มากกว่าไข้ไวรัสโควิด 19

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  เซ๊กซี่บาคาร่าเกมส์66

สิ่งของที่ไม่ควรอยู่ในรถ

สิ่งของต้องห้ามที่ไม่ควรอยู่ในรถ

สิ่งของต้องห้ามที่ไม่ควรอยู่ในรถ

สิ่งของต้องห้ามที่ไม่ควรอยู่ในรถ หากต้องจอดรถตากแดด            

  สิ่งของที่ไม่ควรอยู่ในรถ  หลายครั้งที่เรามักจะได้อ่านข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดกับรถยนต์ที่จอดทิ้งเอาไว้แล้วเกิดเหตุไฟไหม้โดยที่ไม่ได้มีใครไปจุดๆไฟเผา หรือขับรถอยู่ดีก็เกิดมีประกายไฟลุกไหม้ขึ้นมาเฉยๆ สิ่งเหล่านี้หากเราค้นหาสาเหตุก็จะพบกับสิ่งของที่เป็นเรื่องเล็กน้อยที่เรามักจะมองข้าม

โดยสาเหตุหลักจริงๆนั่นก็คือความร้อนของอากาศของโลกเราในปัจจุบันนี้มีความร้อนสูงขึ้นทุกปีซึ่งบางวันเราสามารถวัดความร้อนได้มากถึง 50 กว่าองศาเลยก็มีการที่เราต้องจอดรถไว้กลางแดดนานๆ จะมีผลที่ให้ความร้อนภายในรถมีการอัดกันหนาแน่นเพราะทุกครั้งที่เราจอดรถ เรามักจะปิดกระจกให้สนิทเพราะกลัวคนมาขโมยของภายในรถไป ดังนั้นหากภายในรถมีความร้อนมากเกินไปสิ่งของที่อยู่ในรถก็สร้างความเสียหายให้กับตัวรถของเราได้เช่นกัน

มาดูกันว่าในช่วงที่อากาศร้อนแบบนี้เราไม่ควรเก็บอะไรไว้ในรถกันบ้าง

  1. ไฟแช็ก แน่นอนสำหรับคนที่สูบบุหรี่มักจะต้องมีไฟแช็กติดตัวอยู่เสมอ แต่หากวันไหนลืมไฟแช็กไว้ในรถตรงคอนโซลหน้ารถแล้วต้องจอดรถตากแดดเป็นเวลานานแล้วละก็จะมีอันตรายเกิดขึ้นได้เพราะความร้อนจะไปทำปฏิกิริยากับไฟแช็กทำให้ไฟแช็กเกิดระเบิดขึ้นมาได้ 
  2. สเปรย์กระป๋อง  สำหรับสเปรย์กระป๋องเชื่อว่าหลายคนคงไม่ค่อยมีใครเก็บไว้ในรถกันมากนักแต่ก็เป็นข้อมูลเพื่อให้ทราบว่า อย่าลืมสเปรย์กระป๋องเอาไว้ในรถในขณะที่จอดรถตากแดดร้อนจัดนานๆ เพราะแก๊สในกระป๋องมันจะสามารถทำกระป๋องสเปรย์ระเบิดได้หากต้องอยู่ที่ที่ร้อนมากๆ
  3. แบตเตอรี่สำรอง หรือที่เราเรียกกันว่าพาวเวอร์แบงนั่นเอง สำหรับอุปกรณ์ชิ้นนี้เคยมีข่าวเกิดขึ้นมาแล้วว่ามีการเกิดการระเบิดในรถขึ้น เพราะได้รับความร้อนมากเกินไปดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของรถและตัวเราเอง อย่าวางพาวเวอร์แบงไว้ในจุดที่ใกล้ความร้อนและห้ามวางไว้ในรถนะคะ
  4. โทรศัพท์มือถือ อย่างที่เรารู้กันดีว่าหากโทรศัพท์มือถือร้อนจะมีผลทำให้เครื่องระเบิดได้ ดังนั้นการที่เราลืมโทรศัพท์มือถือเอาไว้ในรถที่มีกระจกปิดรอบด้านและยังอยู่ในอุณหภูมิที่ร้อนมากๆจะมีผลทำให้โทรศัพท์ระเบิดได้ หรือหากไม่ระเบิดก็จะมีผลต่อระบบการทำงานภายในโทรศัพท์ทำให้เครื่องเสื่อมสภาพเร็วได้เช่นกัน

และนี่เป็นเพียงสาเหตุเล็กๆน้อยๆที่จะสร้างความเสียหายให้กับรถของเราได้หากมีการเอาไว้ในรถที่ต้องจอดทิ้งไว้ท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนจัดเป็นเวลานานๆ ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาทก่อนลงจากรถควรตรวจสอบก่อนให้เรียบร้อยทุกครั้งอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ถ้าเราประมาท