ประวัติของวัดพงษ์สุนันท์ จังหวัดแพร่

ถ้าหากพูดถึงวัดพงษ์สุนันท์เชื่อว่าหลายคนที่ไม่ได้อยู่ในจังหวัดแพร่

        ประวัติของวัดพงษ์สุนันท์ อาจจะไม่ค่อยได้ยินชื่อเสียงของวัดแห่งนี้กันมากนักแต่แท้ที่จริงแล้ววัดแห่งนี้นั้นนับได้ว่าเป็นวัดที่มีความโดดเด่นมีความสวยงามและเป็นวัดที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดแพร่เลยทีเดียวโดยวัดแห่งนี้นั้นถูกสร้างขึ้นมาในยุคสมัยโบราณหลายร้อยปีซึ่งแต่เดิมวัดแห่งนี้นั้นไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังเหมือนปัจจุบันนี้และไม่ได้สวยงามเท่ากับปัจจุบันนี้ด้วยสมัยก่อนนั้นวัดแห่งนี้เป็นวัดร้างและเดิมก็เคยตั้งชื่อว่าวัดปงสนุก

          อย่างไรก็ตามวัดแห่งนี้ได้มีการบูรณะขึ้นมาใหม่เป็นวัดที่มีความสวยงามมีการสร้างวิหารและมีการเปลี่ยนชื่อวัดซึ่งการบูรณะวัดหรือว่าแม้แต่การสร้างวิหารขึ้นมาใหม่จนวัดแห่งนี้มีความสวยงามนั้นถูกดำเนินการในช่วงประมาณปีพ.ศ 2472 นั่นเองจากเดิมที่ใช้ชื่อวัดปงสนุกก็เปลี่ยนมาเป็นวัดพงษ์สุนันท์นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา 

         สิ่งที่ดึงดูดให้วัดแห่งนี้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวนอกจากความสวยงามของตัวโบสถ์วิหารอาคารต่างๆที่เขาสร้างภายในวัดแล้วยังมีวิหารแก้วซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นวิหารศักดิ์สิทธิ์วิหารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาเป็นสีขาวสวยงามตานอกจากนี้ด้านบนวิหารนั้นซึ่งเป็นบริเวณหลังคายังมีเจดีย์ทั้งหมด 108 องค์ด้วยกัน

ซึ่งวิหารแห่งนี้นั้นงดงามจับตาเป็นอย่างมากเดินรอบวิหารก็จะมีการสร้างรั้วเอาไว้

ซึ่งจะมีบันไดทางขึ้นเป็นรูปพญานาค 2 ตัวและไม่ว่าจะเป็นตัวบันไดเองหรือแม้แต่กำแพงที่ล้อมรอบวิหารแห่งนี้ก็ทาสีขาวหมดโดยวิหารแห่งนี้ถูกเรียกว่าวิหารสีขาววิหารแก้วองค์พระธาตุเจดีย์ 108 ยอด 

         นอกจากนี้ภายในวัดนั้นยังมีการสร้างโบสถ์เอาไว้อย่างสวยงามซึ่งโบสถ์แห่งนี้บอกได้เลยว่าด้านในนั้นมีการออกแบบด้วยศิลปกรรมที่งดงามจับตาเป็นอย่างมากและยังมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยซึ่งมีอายุเก่าแก่โดยประเทศดังกล่าวนั้นชื่อว่าพระเจ้าแสนสุขมีอายุราวๆ 568 ปีเป็นพระพุทธรูปที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมากซึ่งส่วนใหญ่นั้นก็จะเข้ามากราบขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต 

  นอกจากนี้บริเวณหน้าวัดซึ่งเป็นบริเวณตรงประตูทางเข้าวัดเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาหันทางมาด้านซ้ายจะเห็นพระพุทธรูปซึ่งเป็นพระนอนขนาดใหญ่  เว็บพนัน ufabet     อยู่ที่บริเวณทางเข้าหน้าวัดและทางวัดได้มีการสร้างกำแพงล้อมรอบวัดเอาไว้ซึ่งกำแพงของวัดนั้นจะมีการสร้างซุ้มประตูมงคลเอาไว้ด้วยโดยมีทั้งหมด 19 ยอดด้วยกัน

       อย่างไรก็ตามวัดแห่งนี้ได้รับการบูรณะซ่อมแซมขึ้นมาใหม่จนเป็นวัดที่มีความสวยงามและเป็นวัดที่มีชื่อเสียงมาจนถึงปัจจุบันได้ก็เพราะว่าหลวงพิบูลหรือในสมัยก่อนนั้นเรียกว่าเจ้าพรหม  รวมถึงเจ้าสุนันทาซึ่งทั้งสองพระองค์นั้นได้มีการบูรณะซ่อมแซมเอาไว้แล้วคอยดูแลเป็นอย่างดีหลังจากที่มีการซ่อมแซมแล้วจึงเปลี่ยนชื่อวัด โดยนำชื่อต้นของทั้งสองคนมาผสมกันนั่นก็คือพงษ์สุนันท์นั่นเอง