ซีพีเอ็น ผนึกกำลัง ซีอาร์ซี ทุ่มงบประมาณ 800 ล้านจัด mid Year Sale

ซีพีเอ็น ผนึกกำลัง ซีอาร์ซี เมื่อวันที่ 8 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2565  เจ้าหน้าที่สายงานการตลาดในเครือเซ็นทรัลพัฒนา หรือ ซีพีเอ็น ได้มีการออกมาพูดถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวในประเทศในตอนนี้โดยมีการระบุว่า  ททท. ได้มีการประเมินเกี่ยวกับเรื่องของจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเที่ยวในประเทศไทยในช่วงประมาณไตรมาสที่ 3/65   ซึ่งระบุว่าจะมีมากกว่า 5แสนคนต่อเดือน

  โดยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเที่ยวนี้จะมาจากประเทศซึ่งอยู่ใกล้กับประเทศไทย ซึ่งก็คือประเทศในกลุ่มที่มีภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือในส่วนอาเซียนด้วยกัน

            โดยกลุ่มประเทศเหล่านี้นั้นหากเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยไม่จำเป็นที่จะต้องกักตัวสามารถที่จะทำการท่องเที่ยวหลังจากที่บินมาถึงประเทศไทยได้เลยนอกจากนี้  ทางเข้า gclub ใหม่    ยังมีการประเมินการเอาไว้ด้วยว่าในช่วงปลาย ปีพ.ศ. 2565 ประเทศในแถบตะวันออกกลางที่เดินทางมาเที่ยวที่ประเทศไทยก็จะมีจำนวนมากขึ้นกว่าเดิมซึ่งเชื่อว่าจำนวนนักท่องเที่ยวนั้นอาจจะสูงกว่า 100 ล้านคนต่อเดือนเลยทีเดียว  

           จากการคำนวณนี้จะแสดงให้เห็นว่า  หากจำนวนนักท่องเที่ยวมีมากขึ้นเรื่อยๆก็จะส่งผลให้ธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศไทยในปี 65 นั้น มีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้นซึ่งทางด้าน ททท. ได้มีการตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าภายในปี 65 จำนวนนักท่องเที่ยวร่วมกันที่จะเดินทางมาเที่ยวในประเทศไทยน่าจะถึง 7-10 ล้านคนเลยทีเดียว 

        อย่างไรก็ตามจากการสำรวจข้อมูลพบว่าในขณะนี้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย 5 อันดับสูงสุดในตอนนี้นั้นได้แก่ประเทศสิงคโปร์ตามมาด้วยประเทศอินเดียและมาเลเซียรวมถึงประเทศเวียดนามและประเทศกัมพูชา 

ซึ่งข้อมูลที่ถูกนำมาคำนวณนี้เป็นข้อมูลเฉพาะวันที่ 1-21 เดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ. 2565 เท่านั้น แล้วถ้าหากนำข้อมูลนักท่องเที่ยวทั้งหมดในช่วงเวลาดังกล่าวจากหลายประเทศมารวมกันเชื่อว่าจำนวนตัวเลขของนักท่องเที่ยวจะต้องเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% อย่างแน่นอน 

     ดังนั้น ซีพีเอ็น จึงได้ทำการ ผนึกกำลังกับ  ซีอาร์ซี  เพื่อตัดงบทางการตลาดในการโปรโมทการท่องเที่ยวและการบริการของประเทศไทยเพื่อเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศ

โดยงบประมาณที่มีการอัดฉีดในครั้งนี้มีมูลค่ามากกว่า 800 ล้านบาท  ซึ่งทาง ซีพีเอ็น และ ซีอาร์ซี  มีความเชื่อมั่นว่างบประมาณที่มีการนำมาอัดฉีดทำการตลาดในครั้งนี้จะทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวและลูกค้าเยอะมากยิ่งขึ้น

         เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิดทำให้นักท่องเที่ยวไม่ได้เดินทางมาเที่ยวหรือช้อปปิ้งกันเป็นเวลานานดังนั้นหลังจากฟื้นตัวจากสถานการณ์ต่างๆชื่อว่าควรจะออกมาจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้นนั่นเอง 

        อย่างไรก็ตามแผนการกระตุ้นการท่องเที่ยวนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินั้นจะมีการเปิดแคมเปญต้องรับการเปิดประเทศโดยจะมีการนำสินค้ามาวางขายในห้างสรรพสินค้าและมีการออกโปรโมชั่นให้คุ้มเมื่อนักท่องเที่ยวได้ไม่เห็นบรรยากาศการช็อปปิ้งที่คึกคักก็จะสนใจอยากจะทำการช้อปปิ้งซึ่งจะทำให้เกิดการหมุนเวียนของแม่และเงินในประเทศไทยส่งผลทำให้เศรษฐกิจของไทยนั้นมีเงินหมุนเวียนมหาศาลเลยทีเดียว