ธุรกรรมการชำระเงินแบบ เรียลไทม์ ปี 64 ประเทศไทยติดอันดับ 3 ของโลก

      ธุรกรรมการชำระเงินแบบ เรียลไทม์  เมื่อวันที่ 20 เดือนมิถุนายน ปีพ.ศ. 2565 ทางรัฐบาลได้มีการออกมาเปิดเผยข้อมูลประจำปีพศ 2564 เกี่ยวกับเรื่องของการชำระเงินของประชาชนคนไทยซึ่งมีการทำธุรกรรมการชำระเงินเป็นแบบ Real Time

โดยมีการระบุว่าปัจจุบันคนไทยมีการชำระเงินเฉพาะในปี 60 ปีเดียวนั้นสูงถึง 9.7 พันล้านครั้งซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆแล้วประเทศไทยนั้นติดอันดับการชำระเงินแบบเรียลไทม์เป็นอันดับ 3 ของโลกเลยทีเดียว

         สำหรับสถิติประจำปีพศ 2564 ที่ประชากรมีการชำระเงินบาทเรียลไทม์ปรากฏว่าประเทศที่เป็นติดอันดับ 1 ของโลกนั้นก็คือประเทศอินเดียซึ่งมียอดประชากรมีการชำระเงินแบบเรียลไทม์สูงถึง 48.6 พันล้านครั้งในขณะที่อันดับสองนั้นเป็นของประเทศจีน  ซึ่งมียอดประชาชนชำระเงินบาทเรียลไทม์ 28.5 พันล้านครั้ง 

           สำหรับการวิเคราะห์เกี่ยวกับเรื่องของการทำธุรกรรมการชำระเงินแบบเรียลไทม์ของประชาชนในประเทศนั้นจะสามารถช่วยให้ทราบเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศนั้นๆได้ซึ่งการชำระเงินแบบเรียลไทม์นั้นจะทำให้เศรษฐกิจนั้นมีการผลิตที่เติบโตมากขึ้น 

        สำหรับการชำระเงินบาทเรียลไทม์ก็คือการชำระเงินผ่านทางรูปแบบดิจิตอลเองจะเห็นได้ว่าปัจจุบันประเทศไทยมีช่องทางการชำระเงินแบบเรียลไทม์นั้นมากมายและ  สมัคร gclub ไม่มีขั้นต่ำ   ช่องทางยกตัวอย่างเช่นโครงการสวัสดิการแห่งรัฐนั้นก็เป็นการชำระเงินบาทเรียลไทม์หรือแม้แต่โครงการ QR payment หรือพร้อมเพย์ก็เป็นการชำระเงินบาทเรียลไทม์เช่นเดียวกัน

          นอกจากนี้การใช้ G- wallet หรือการใช้แอพพลิเคชั่นเป๋าตังในโครงการต่างๆของรัฐบาลอย่างเช่นชิมช๊อปใช้หรือโครงการคนละครึ่งและเราเที่ยวด้วยกันรวมถึงการขายสลากดิจิตอลของGovernment  wallet นั้นก็เป็นการชำระเงินแบบเรียลไทม์เช่นเดียวกัน 

          สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของการทำธุรกรรมการชำระเงินแบบเรียลไทม์นั้นในช่วงประมาณ ปีพ.ศ. 2562-2563

ประเทศไทยมีประชาชนที่เข้ามาใช้การชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์น้อยมากอาจกล่าวได้ว่ามีเพียงแค่ประมาณ 2.57 พันล้านครั้งกับ 5.24 พันล้านครั้งเท่านั้นแต่พอมาถึงช่วงประมาณ ปีพ.ศ.2563 ปริมาณการทำธุรกรรมชำระเงินแบบเรียลไทม์นั้นสูงแบบก้าวกระโดดเลยทีเดียวสาเหตุ

       ส่วนหนึ่งนั้นมาจะมาจากเรื่องของการระบาดของไวรัสโควิดที่ทำให้ประชาชนนั้นไม่สะดวกที่จะออกไปจับจ่ายใช้สอยโดยการจ่ายเป็นเงินสดดังนั้นการชำระเงินบาทพร้อมเพย์รวมถึงการใช้ Government wallet นั้นจึงเป็นช่องทางการชำระเงินที่ได้รับความนิยมขึ้นมานั่นเอง 

          อย่างไรก็ตามจากการที่ประชาชนทำธุรกรรมการชำระเงินบาทเรียลไทม์นั้นทำให้รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะมีการขับเคลื่อนช่องทางการชำระเงินแบบนี้ส่วนหนึ่งก็เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนอีกส่วนหนึ่งก็เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับภาคธุรกิจที่จะสามารถทำให้ธุรกิจเติบโตได้หากประชาชนสามารถชำระเงินได้แบบสะดวกจะได้จะเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและยกระดับการดำเนินธุรกิจของไทยได้นั่นเอง