เทรนด์ท่องเที่ยวยุค covid-19 ดัน  Camping Fever 

สำหรับกิจกรรมตั้งแคมป์นั้นเป็นกิจกรรมที่มีการทำประกันมาสักระยะแล้วโดยคนเริ่มหันมาสนใจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติไปตั้งแคมป์นอนนั้นมีมานานแล้ว

แต่ที่มีเยอะมากขึ้นก็เริ่มช่วงประมาณปีพศ 2561 อย่างไรก็ตามการท่องเที่ยวแบบการตั้งแคมป์นั้นปรากฏว่ายังได้รับการกระแสตอบรับอย่างต่อเนื่องทำให้ในช่วงนี้เจ้าของรีสอร์ทที่ได้รับผลกระทบที่คนไม่ได้เข้าพักตั้งแต่มีการระบาดของไวรัสโควิตจึงเปลี่ยนลักษณะของการให้บริการแทนที่จะเปิดให้บริการในรีสอร์ทก็มีการเปิดให้ตั้งแคมป์ได้มีบริการให้เช่าเต็นท์ได้ซึ่งทำให้ตอนนี้นั้นกระแสการท่องเที่ยวเทรน Camping นั้นกำลังมาแรงเป็นอย่างมากเลยทีเดียว 

           สำหรับสาเหตุที่ทำให้เทรนแคมป์ปิ้งมาแรงในยุคโควิดระบาดนี้ก็เพราะว่าในช่วงที่ covid ระบาดใหม่ๆนั้นประเทศไทยได้มีการล็อกดาวประเทศซึ่งผู้คนนั้นไม่ได้ออกไปท่องเที่ยวเลยทำให้เกิดความเบื่อหน่ายได้อยากไปเที่ยวแต่การไปเที่ยวในจุดที่มีคนไปเยอะๆก็กลัวว่าจะติด covid อีก

ดังนั้นการไปเที่ยวไปสัมผัสกับธรรมชาติไปสัมผัสกับอากาศที่สดชื่นบริสุทธิ์จึงเป็นสิ่งที่ผู้คนนั้นโหยหาเป็นอย่างมากทางเลือกในการเที่ยวจึงเปลี่ยนมาใช้เป็นลักษณะของการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติไปตั้งแคมป์นอนนั่นเอง 

         อย่างไรก็ตามเทรนการท่องเที่ยวแคมปิง Fever นั้นไม่ได้ Fever เฉพาะภายในประเทศไทยเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่หลังจากที่ covid ระบาดนั้นผู้คนทั่วโลกต่างก็อยากจะออกไปท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆซึ่งบางทีนั้นมันก็มีข้อจำกัดว่าบางสถานที่นั้นมีคนติดเชื้อไวรัสมากจนเกินไป

เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะไปใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเช่นอาจจะไปตั้งแคมป์ในอุทยานแห่งชาติหรืออาจจะไปตั้งแคมป์ตามรีสอร์ทต่างๆที่เขามีการเปิดให้สามารถตั้งแคมป์ได้ซึ่งตอนนี้ทั่วโลกกำลังนิยมการท่องเที่ยวแบบตั้งแคมป์นี้กันเป็นอย่างมากเลยทีเดียว 

         มีการเปิดเผยมาเกี่ยวกับเรื่องของสไตล์แคมป์ปิ้งจากทั่วโลกว่า ในปีพศ. 2564

นี้การการท่องเที่ยวแบบ Camping นั้นจะสามารถสร้างรายได้มูลค่าทางการตลาดมากถึง 6.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว    อย่างไรก็ตามกระแสแค้มป์ปิ้งนั้นยังคงไม่ดรอปและยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

       เพราะฉะนั้นในปีพศ. 2565 นี้มีการคาดการณ์กันว่ากระแสการท่องเที่ยวแนวแค็มปิ้งส์นั้นจะมีการปรับเพิ่มมากขึ้นมากถึง 11.2 เปอร์เซ็นต์ซึ่งจะสามารถสร้างมูลค่าทางการตลาดได้ถึง 6.89  ล้านเหรียญสหรัฐเช่นเดียวกัน  นอกจากนี้เชื่อมั่นได้ว่ากระแสการท่องเที่ยวแบบแคมป์ปิ้งนั้นจะยังมีอย่างต่อเนื่องโดยถ้าในช่วงประมาณปีพศ 2569 เชื่อว่ากระแสการท่องเที่ยวแนวแค้มป์ปิ้งนี้จะมีการปรับเพิ่มมากขึ้นถึง 9.9 เปอร์เซ็นต์และจะสามารถสร้างมูลค่าทางการตลาดได้ 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว 

 

สนับสนุนโดย    สล็อตยูฟ่าเว็บตรง

ประวัติ เลนิน ผู้นำความเปลี่ยนแปลงสู่บ้านเกิด

เลนิน ผู้นำความเปลี่ยนแปลงสู่บ้านเกิด ในอดีตที่ยาวนานและเก่าแก่ของรัสเซียได้ถูกทำลายและเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเมื่อมีบุรุษคหนึ่งได้เกิดมาในครอบครัวที่แสนธรรมดาได้ถูกกดขี่ข่มเหงจนทำให้เขาเอาแนวคิดของมาร์กซิสมาเผยแพร่เพื่อให้เกิดความเสมอภาพและความยุติธรรมขึ้นในหมู่ชาวรัสเซีย

ทั้งๆที่ในยุคสมัยนั้นเต็มไปด้วยระบอบศักดินาเจ้าขุนมูลนายและความไม่เท่าเทียมกันอย่างมากในสังคมบุรุษนั้นก็คือ เลนิน ผู้นำความเปลี่ยนแปลงอันใหญ่หลวงมาให้กับบ้านเกิดเมืองนอนของตนเขาเติบโตขึ้นมาถท่ามกลางความแตกต่างทางชนชั้นของคนจนและคนรวยในยุคเมื่อกว่าร้อยปีที่แล้วเขาฝันอยากจะให้มีการกินอยู่ที่ดีได้กระจายไปสู่คนรัสเซียเป็นวงกว้าง

โดยไม่ใช่ตกไปอยู่ในแวดวงของคนรวยเพียงไม่กี่หยิบมือเมื่อเขาได้ศึกษาปรัชญาและเป้าหมายของลัทธิมาร์กซิสก็ทำให้เขาได้สรุปออกมาว่าหากเขานำระบอบการปกครองแบบสังคมนิยมมาใช้ก็จะทำให้ชาวรัสเซียได้รับปัจจัยสี่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตอย่างเท่าเทียมกัน

เลนิน มีชื่อจริงว่า วลาดิมีร์ เลนิน ถือกำเนิดเมื่อวันที่10เมษายน ปีคริสต์ศักราช 1780 เขาเป็นลูกคนที่สามอุปนิสัยร่าเริงเจ่งใสเขาเริ่มหัดอ่านหนังสือตั้งแต่อายุ5ขวบสนใจการเรียนขยันและจริงจังได้รับคะแนนยอดเยียมอยู่เสมอนับเป็นเรื่องที่ดีเขามีต้นแบบที่ดีจากพ่อและแม่ของเขา

ซึ่งเขาทั้งสองนั้นมีความกระตือรือร้นขยัน เลนินมักช่วยสอนวิชาพิเศษต่างๆให้แก่เพื่อนร่วมชั้นและช่วยอธิบายบทเรียนและปัญหายากๆให้แก่เพื่อนทั้งยังแปลภาษากรีกและภาษาลาตินอีกด้วยขณะเรียนอยู่สองปีสุดท้ายในโรงเรียนเตรียมอุดมเขาได้ช่วยติวให้ครูโรงเรียนประถม

ซึ่งต้องการได้ใบสุทธิเพื่อเอาไปเข้ามหาวิทยาลัยในที่สุดครูคนนั้นก็ได้ใบสุทธิอันเนื่องมาจาการช่วยติวของเขาในปีคริสต์ศักราช1886 พ่อของเขาได้เสียชีวิตอย่างกระทันหันอีก1ปีถัดมาครอบครัวของเลนินก็ประสบกับโศกนาฏกรรมอีกครั้งคือพี่ชายสุดที่รักถูกจับกุมด้วยข้อหาว่ามีส่วนในการลอบปลงพระชนพระเจ้าซ่าเขาถูกตัดประหารชีวิตและถูกแขวนคอ

เมื่อวันที่8พฤษภาคมคริสต์ศักราช1887เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เขารู้สึกเสียใจมากแต่มันก็ทำให้เขาเข้มแข็งขึ้นและบังคับให้เขาจำต้องคิดจริงจังมากขึ้นเกี่ยวกับหนทางการต่อสู้ปฏิวัติช่วงนั้นเองที่เขาได้อ่านหนังสือของคาร์ลมาร์กซ์และทำให้เขายอมรับว่านั่นคือหนทางแห่งการต่อสู้

เพื่อนำไปสู้การปฏิวัติเพื่อก่อให้เกิดความเสมอภาคในรัสเซียปลายฤดูร้อนคริสต์ศักราช1887ภายหลังจากจบจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพร้อมด้วยเหรียญทองเลนินศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัย

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    สล็อตยูฟ่าเว็บตรง