ทุเรียนแบ่งขายพูละ 10 บาท ที่จังหวัดเชียงใหม่คนแห่ซื้อเพียบ 

           มีการเปิดเผยเมื่อวันที่ 28 เดือนเมษายนปีพศ. 2565 ว่าที่บริเวณริมถนนราชวงศ์ของจังหวัดเชียงใหม่มีร้านขายทุเรียนร้านนึงชื่อว่าร้านนิวซีแลนด์มีการเปิดขายทุเรียนมาอย่างยาวนานทุกครั้ง

เมื่อถึงฤดูกาลขายทุเรียนร้านนี้ก็จะนำทุเรียนมาเปิดขายให้กับลูกค้าอย่างไรก็ตามในช่วงเวลานี้ปรากฏว่ามีข่าวลือว่าทุเรียนร้านนี้มีการจำหน่ายให้กับลูกค้าในราคาถูกเป็นอย่างมากด้วยราคาที่มีการเริ่มต้นการขายนั้นขายเพียงภูละ 10 บาทเท่านั้นทำให้ลูกค้าที่ชื่นชอบการกินทุเรียนต่างก็ให้ความสนใจและเดินทางมาที่ร้านทุเรียนร้านนี้กันเป็นจำนวนมาก

           อย่างไรก็ตามเมื่อนักข่าวเดินทางไปถึงเพื่อไปทำการตรวจสอบตามที่มีการเล่าลือกันก็บอกว่ามีลูกค้ามายืนต่อแถวเพื่อจะรอซื้อทุเรียนกับร้านดังกล่าวมากจริงๆโดยจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าทางด้านเจ้าของร้านนิวตันนั้นค่อนข้างใจดีมีการเอาใจลูกค้าโดยมีการขายทุเรียนให้กับลูกค้าในราคาที่ถูกมากเพราะเห็นใจว่าหลายคนนะมีปัญหาด้านเศรษฐกิจแต่ก็อยากกินทุเรียนดังนั้นจึงได้มีการนำทุเรียนมาออกขาย

โดยการแบ่งขายเป็นผู้โดยคิดเพียงแค่พุงละ 10 บาทเท่านั้นซึ่งลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าอยากจะกินทุเรียนแบบกรอบนอกนุ่มในหรือจะกินทุเรียนแบบสุกกำลังดีก็ได้อย่างไรก็ตามลูกค้าบางคนก็สามารถที่จะซื้อแบบเป็นลูกเลยก็ได้

ทุเรียนแบ่งขายพูละ 10 บาท จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าร้านค้าดังกล่าวนั้นได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก

เนื่องจากว่าร้านค้านั้นออกโปรโมชั่นดีเพราะลูกค้าบางคนนั้นไม่ได้มีเงินมากพอที่จะสามารถซื้อทุเรียนกินได้ทั้งลูกแต่ก็อยากกินทุเรียนดังนั้นจึงสามารถที่จะซื้อเพียงแค่พูหรือ 2 พูกินเพื่อให้หายอยากเพียงเท่านั้นได้ซึ่งก็จะเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อทุเรียนกินเพียงแค่ 20 หรือ 30 บาทเท่านั้นเอง

         อย่างไรก็ตามทางร้านก็ได้มีการขายทุเรียนมากมายหลายแบบเพื่อเอาใจลูกค้าทำให้ร้านทุเรียนนิวแตนนั้นกระแสตอบรับดีมากๆซึ่งจากการให้ข้อมูลของแม่ค้าระบุว่าทุเรียนที่นำมาขายนั้นมีหลายสายพันธุ์อย่างเช่นหมอนทองรวมถึงพวงมณีและทุเรียนกระดุมโดยถ้าหากขายเป็นลูกนั้นจะขายอยู่ราคาลูกละประมาณ 700ถึง 800 บาทซึ่งลูกค้าหลายคนนั้นไม่มีเงินทุนที่จะซื้อเป็นรูปได้หรือบางคนซื้อไปเป็นลูกก็กินไม่หมด

       อย่างไรก็ตามนี่คือแนวความคิดที่ถือว่าเป็นแนวความคิดที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมากเพราะหากแม่ค้าจะรอขายทุเรียนเป็นลูกหรือแบ่งขายเพียงแค่ครึ่งลูกเท่านั้นอาจจะทำให้ได้รับลูกค้าได้น้อยมากเพราะลูกค้าส่วนใหญ่นั้นจะไม่มีเงินสูงมากพอที่จะสามารถซื้อทุเรียนในราคาลูกละ 700-800 บาทได้แต่ถ้าแม่ค้ามีการแบ่งขายก็จะมีลูกค้าเป็นจำนวนมากที่สามารถซื้อกินได้ซึ่งจะทำให้มีรายได้มากกว่าการขายเป็นแบบลูกๆอีกด้วยดังนั้นนี่จึงถือได้ว่าเป็นจุดเด่นของการขายทุเรียนอีกอย่างหนึ่งที่แม่ค้าขายทุเรียนคนอื่นสามารถเอาเป็นแบบอย่างได้เลยทีเดียว

 

สนับสนุนโดย    gclub ฝาก ขั้นต่ำ 20

ธุรกิจในครอบครัวอายุเท่าไหร่เหมาะสมต่อการสานต่อทางด้านธุรกิจ

      สำหรับธุรกิจในประเทศไทยนั้นมีทั้ง ธุรกิจในครอบครัว ที่เป็นแบบการร่วมหุ้นกันและธุรกิจของครอบครัวซึ่งแน่นอนว่าธุรกิจของการร่วมหุ้นกันนั้นก็จะมีการแบ่งปันผลกำไรกันหลังจากสิ้นปีที่มีการนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นปีนั้นว่ามีการค้าขายได้กำไรมากน้อยแค่ไหน

และเจ้าของธุรกิจที่มีการหุ้นส่วนกันนั้นก็จะมาแบ่งปันผลกำไรกันในขณะเดียวกันกลุ่มธุรกิจที่เป็นลักษณะของการร่วมหุ้นกันนั้นพวกเขาต่างจะมีอายุเท่าไหร่ก็ได้หากสามารถร่วมแรงร่วมใจกันทำงานได้ก็ไม่มีปัญหาทางด้านนี้

        แต่สำหรับธุรกิจในครัวเรือนหรือ ธุรกิจในครอบครัว ในกลุ่มญาติมิตรนั้นจะต้องมีทายาทเป็นผู้สืบทอดกิจการโดยตรงซึ่งแน่นอนว่าหลายคนคงจะสงสัยว่าสำหรับการทำธุรกิจในครัวเรือนนั้นผู้ที่จะมาสานต่อหรือมาเป็นคนดูแลกิจการต่อจากพ่อแม่ของตนเองนั้นควรจะต้องมีอายุเท่าไหร่พวกเขาถึงจะมีอำนาจการตัดสินใจและบริหารงานให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสามารถทำให้ธุรกิจในครัวเรือนของเขาดำเนินต่อไปได้อย่างดีและไม่เสียหายในรุ่นของพวกเขานั้นเอง

            หลายคนมีการตั้งคำถามว่าทายาทที่จะมาสานต่อธุรกิจของคนในครอบครัวนั้นอายุเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสมและต้องจบการศึกษามากน้อยแค่ไหนถึงจะเหมาะสมกับการที่จะต้องทำธุรกิจในครอบครัวให้มีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้นกว่ารุ่นแรกๆที่เคยทำมา อย่างไรก็ตามได้มีการทำแบบสำรวจเกี่ยวกับเรื่องของนักธุรกิจรุ่นใหม่ออกมาโดยแบบสำรวจนี้มีการทำแบบสำรวจมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา

รวมถึงประเทศอังกฤษและพัฒนา  โดยมีการสำรวจในช่วงประมาณปีที่แล้วจนถึงปีนี้ซึ่งส่วนใหญ่มุ่งเน้นการสำรวจธุรกิจในครอบครัวจะเห็นได้ว่าสำหรับชาวต่างชาตินั้นพวกเขาไม่ได้ดูอายุเป็นที่ตั้งแต่ดูที่ความสามารถของกลุ่มคนที่จะมาสานต่อธุรกิจหลักเพราะมีถึง 33 เปอร์เซ็นต์ด้วยกัน

ที่ผู้ที่เป็นทายาทนั้นอายุเพียงแค่ 20 ปีเท่านั้นและ 38 เปอร์เซ็นต์ผู้ที่มาเป็นทายาทในการสานต่อธุรกิจนั้นก็อายุ ไม่เกิน 25 ปีในขณะที่บางครอบครัวให้ทายาทของตนเองมาสานต่อธุรกิจเมื่ออายุ 26 ปีขึ้นไปซึ่งนับได้ว่าน้อยมากสำหรับคนที่มีอายุ 26 ปีขึ้นไปแล้วมาสานต่อธุรกิจของครอบครัว

        ดังนั้นจะเห็นได้ว่าชาวต่างชาติให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องของการทำงานของทายาทมากกว่าที่จะดูในเรื่องของอายุเพราะถ้าหากว่าทายาทมีความสามารถในการตัดสินใจบริหารงานธุรกิจได้พวกเขาก็สามารถดำเนินการตามธุรกิจของตนเองได้

          อย่างไรก็ตามสำหรับครอบครัวของคนไทย ยังไม่ค่อยยอมรับกับทายาทที่อายุยังน้อยมากนักส่วนใหญ่แล้วคนไทยนิยมให้ทายาทมีอายุประมาณ 30 กว่าค่อยมาสนต่อธุรกิจครอบครัวนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย.  gclub ฝาก ขั้นต่ำ 20