การสังหารชาวผิวขาวของ เจอโรนิโม อาปาเช 

ในปีคริสต์ศักราช 1858 เรื่องร้ายแรงในชีวิตก็เกิดขึ้นกับเจอโรนิโมเมื่อเขากลับจากการคุมกองเกวียนแลกเปลี่ยนสินค้าที่ต่างแดนซึ่งเวลานั้นเผ่าของเขาปักหลับอยู่ในเขตเม็กซิโกแต่พอกลับถึงค่ายก็เห็นกระโจมทุกกระโจมถูกเผาทั้งค่ายเต็มมไปด้วยซากศพของคนในเผา

ชาวผิวขาวของ เจอโรนิโม อาปาเช  ในจำนวนนั้นก็มีร่างของภรรยาและลูกสามคนของเขารมอยู่ด้วยค่ายของเขาถูกทหารสเปนที่ร่วมกับโจนเม็กซิกันบุกเข้าโจมตีและปล้นค่ายไปก่อนหน้าที่พวกเขา

จะกลับมาถึงไม่นานนักเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเปลี่ยนแปลงชชีวิตเจอโรนิโมไปในทันทีนับจากนั้นเขาประกาศที่จะเด็ดชีวิตคนขาวหนึ่งคนแรกกับอินเดียหนึ่งศพที่เขาพบนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการจัดตั้งกองกำลังนักรบเผ่าอาปาเชเอกทำสงครามกับคนผิวขาวไปทุกหนแห่ง

โดยตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะต้องสังหารทหารสเปนเม็กซิกันและอเมริกันทุกคนที่เห็นเนื่องจากความเกียจชังทหารที่เข้าทำลายนิคมชาอินเดียทุกหนทุกแห่งเพียงเพื่อต้องการข่มขวัญให้พวกอินเดียยินยอมอพยพย้ายเข้าไปอยู่ในนิคมอินเดียที่พวกเขาจัดหาให้เท่านั้น

นอกจากนี้เจอโรนิโมเคยประกาศว่าเขาจะขอต่อสู้กับทหารทุกคนที่บีบบังคับขับไล่ให้ชาวอินเดียเข้าไปอยู่ในเขตกักกันเพราะชาวอินเดียทุกคนมีอิสระที่จะไปไหนก็ได้ดังนั้นจึงไม่มีใครที่จะมาพรากความอิสระเสรีไปจากชาวอินเดียได้และตราบใดที่คนขาวสามารถอยู่ที่ไหนก็ได้ชาวอินเดียก็สามารถอยู่ที่ไหนก็ได้เช่นการ

การบุกทำลายกองทหารผิวขาวของเจอโรนิโมโคชีดและกองนักรบอาปาเชของเขาสร้างความอกสั่นขวัญเสียให้กับคนขาวอย่างมากไม่ว่ารบที่ไหนก็ไม่เคยมีครั้งใดที่ไม่สร้างความเสียหายให้กับทหารผิวขาวอย่างมหาศาลแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งเจอโรนิโมได้ทำตามที่ประกาศเอาไว้อย่างไม่มีวันลืมไม่ว่าเขาจะพบเผ่าชาวอินเดียเผ่าใดล้มตายด้วยฝีมือคนขาวก็ตามเขาจะสืบจนพบผู้ที่ทำลายชีวิตอินเดียเหล่านั้นและตามไปสังหารคนเหล่านั้นจนสิ้นซากไม่เคยเว้น

เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนไม่ว่าคนขาวเหล่านั้นจะเป็นชาวนาพ่อค้าหรือพระก็ตามถ้าหากคนเหล่านั้นสามารถจับอาวุธสังหารชาวอินเดียได้คนพวกนั้นก็ต้องได้รับผลตอบแทนเช่นเดียวกัน    ีดฟิำะ    เป็นชีวิตแลกชีวิตอย่างที่เจอโรนิโมสั่นวาจาไว้ต่อมาโคชีดเสียชีวิตลงในปีคริสต์ศักราช 1874

ระหว่างที่กำลังหลบหนีการไล่ล่าของทหารสหรัฐในการสู้รบครั้งหนึ่งเจอน้องเขยของเจอโรนิโมจึงขึ้นเป็นหัวหน้าเผ่าคนต่อมาแต่โดยพฤตินัยแล้วเจอโรนิโมก็ยังเป็นคงเป็นผู้นำกลุ่มนักรบอาปาเชของเขาอยู่ดี